Visa บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่ได้เปิดตัวโครงการนำร่องในสหรัฐอเมริกา โดยอนุญาตให้ส่งการจ่ายเงินด้วย stablecoin ที่ผูกกับดอลลาร์สหรัฐฯ จากบัญชีธุรกิจที่ใช้เงินสกุล fiat เช่น ดอลลาร์สหรัฐ Visa ประกาศเปิดตัวโครงการนำร่องนี้ในงาน Web Summit ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้เครือข่ายการชำระเงินดิจิทัล
Visa Direct ส่ง stablecoin เช่น USDC USDC ไปยังกระเป๋าเงินคริปโตได้โดยตรง Visa ระบุว่าโครงการนำร่องนี้อนุญาตให้ผู้รับเงินสามารถเลือกรับเงินในรูปแบบ stablecoin ได้ และแพลตฟอร์มต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงธุรกิจต่างๆ ก็สามารถส่งการจ่ายเงินจากบัญชีที่ใช้เงินสกุล fiat ของตน “โดยตรงไปยังกระเป๋าเงิน stablecoin ของผู้ใช้ พนักงาน หรือพนักงาน
การเปิดตัวการจ่ายเงินด้วย stablecoin คือการเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเงินได้อย่างแท้จริงภายในไม่กี่นาที ไม่ใช่ไม่กี่วัน สำหรับทุกคน ทุกที่ในโลก” Chris Newkirk ประธานฝ่ายโซลูชันการเคลื่อนย้ายเงินของ Visa กล่าว
วีซ่าระบุว่ากำลังดำเนินการรับสมัคร พันธมิตรที่ได้รับการคัดเลือก และจะขยายการเข้าถึงบริการนี้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้นในปี 2569
เบื้องต้น บริษัทมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจในระดับนานาชาติ และธุรกิจในอุตสาหกรรมฟรีแลนซ์หรือธุรกิจกิ๊ก ซึ่งมักต้องพึ่งพาการชำระเงินดิจิทัลที่รวดเร็ว
วีซ่าระบุว่า ผลการวิจัยล่าสุดพบว่า 57% ของแรงงานกิ๊กนิยมใช้วิธีการชำระเงินดิจิทัลเพื่อการเข้าถึงเงินทุนที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
เศรษฐกิจแห่งผู้สร้าง Creative Economy ถือเป็นกลุ่มแรกๆ ที่นำเทคโนโลยีการชำระเงินดิจิทัลมาใช้อย่างกระตือรือร้น ที่มา Visa
Visa expands stablecoin push as US regulations crystallize
Visa ขยายการผลักดัน Stablecoin ขณะที่กฎระเบียบของสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนขึ้น
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ Visa สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เพิ่มขึ้นในการชำระเงินผ่านบล็อกเชน
ในเดือนกรกฎาคม Visa ได้ขยายการให้บริการ Stablecoin บนแพลตฟอร์มการชำระเงิน โดยเพิ่ม Global Dollar USDG PayPal USD PYUSD และ Euro Coin EURC ลงในบล็อกเชน Stellar และ Avalanche
ที่เกี่ยวข้อง ธุรกิจคริปโตยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีทวางเดิมพัน Stablecoin
ในเดือนกันยายน Visa Direct ได้เริ่มนำร่องการโอนเงินทันทีโดยใช้ USDC และ EURC ซึ่งช่วยให้การชำระเงินระหว่างธุรกิจต่างๆ รวดเร็วขึ้น
การขยายตัวของ Visa เกิดขึ้นในขณะที่เครือข่ายการชำระเงินกำลังเร่งใช้ประโยชน์จากความชัดเจนด้านกฎระเบียบใหม่ในสหรัฐอเมริกาหลังจากการผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ซึ่งเป็นร่างกฎหมายสำคัญที่กำหนดแนวทางปฏิบัติของรัฐบาลกลางสำหรับ Stablecoin
บริษัทต่างๆ กำลังก้าวเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น โดยธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Citigroup กำลังสำรวจการชำระเงินด้วย stablecoin ขณะที่ Western Union กำลังวางแผนเปิดตัวระบบการชำระเงินสินทรัพย์ดิจิทัลบน Solana
ขณะเดียวกัน ธนาคารวอลล์สตรีทอย่าง JPMorgan และ Bank of America ก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการ stablecoin ของตนเอง
สตาร์ทอัพ Stablecoin ก็กำลังได้รับเงินทุนจาก Venture Capital จำนวนมากเช่นกัน โดยล่าสุดมีข้อตกลงให้ทุนแก่บริษัทต่างๆ ที่ดำเนินงานในระบบนิเวศ Stablecoin เช่น Telcoin Hercle และ Arx Research
นิตยสาร GENIUS Act เปิดประตูสู่ Meta Stablecoin อีกครั้ง แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่