SharpLink Gaming ประกาศแผนการนำ Ether ETH มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากคลังของบริษัทไปใช้งานบนเครือข่าย Linea ของ Consensys
บริษัทกล่าวว่าโครงการริเริ่มระยะยาวนี้จะใช้โครงสร้างพื้นฐานเลเยอร์ 2 zkEVM ของ Linea เพื่อสร้างผลตอบแทนแบบออนเชนและเพิ่มประสิทธิภาพของการถือครอง ETH ตามข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อวันอังคาร กลยุทธ์นี้มุ่งเป้าไปที่ ผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงแล้ว โดดเด่น และมีความสามารถในการแข่งขันสูง
SharpLink วางแผนที่จะสร้างผลตอบแทนจากการ Staking และการ Restaking รางวัลที่ได้รับจากการช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับบริการตรวจสอบแบบกระจายศูนย์ AVS ของ EigenCloud และสิ่งจูงใจจาก Linea และ ether.fi ซึ่งเป็นโปรโตคอล Staking และการ Restaking แบบกระจายศูนย์ที่มีสภาพคล่อง
Staking หมายถึงการล็อก Cryptocurrency เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายบล็อกเชนเพื่อแลกกับรางวัล การ Restaking ต่อยอดแนวคิดนี้โดยอนุญาตให้ผู้ใช้นำสินทรัพย์ที่ Staking ของตนกลับมาใช้ใหม่หรือ Restaking เพื่อสนับสนุนบริการแบบกระจายศูนย์เพิ่มเติมและรับรางวัลเพิ่มเติม
การจัดสรรเงินทุนมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐนี้ จะได้รับการบริหารจัดการภายใต้การคุ้มครองจากสถาบันผ่าน Anchorage Digital Bank ซึ่งเป็นผู้รับฝากทรัพย์สินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมของ SharpLink
ปัจจุบัน SharpLink เป็นองค์กรที่ถือครอง ETH รายใหญ่เป็นอันดับสอง โดยมี ETH อยู่ 859,853 ETH คิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.57 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 0.71เปอรืเซ็นต์ ของปริมาณทั้งหมด ตามข้อมูลของ CoinGecko การจัดสรรเงินทุนที่วางแผนไว้นี้คิดเป็นประมาณ 5.6 เปอร์เซ็นต์ ของคลังทั้งหมด
5 บริษัทคลัง Ethereum ชั้นนำ แหล่งที่มา Coingecko
ที่เกี่ยวข้อง ผลตอบแทน Crypto ที่ได้รับการควบคุมได้รับชัยชนะเนื่องจากสถาบันต้องการสาระสำคัญ
กลยุทธ์ผลตอบแทน DeFi
SharpLink ไม่ใช่รายเดียวที่หันมาใช้ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากออนเชน
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ETHZilla ETHZ ประกาศว่าจะนำ ETH มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปใช้งานบน ether.fi เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจุบัน ETHZilla เป็นคลังสินทรัพย์ดิจิทัล DAT ของ Ethereum ที่ใหญ่เป็นอันดับห้า โดยถือครอง ETH อยู่ 102,326 ETH ณ เวลาที่เขียนบทความนี้
ในเดือนกุมภาพันธ์ มูลนิธิ Ethereum ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนการพัฒนาและระบบนิเวศหลักของ Ethereum ได้นำ ETH จำนวน 45,000 ETH ไปใช้งานในโปรโตคอล DeFi ซึ่งรวมถึง Spark และ Compound นโยบายการคลังของมูลนิธิตั้งแต่เดือนมิถุนายนได้เปิดเผยแผนการที่จะก้าวข้ามการถือครองแบบ Passive ด้วยการ Staking และนำ ETH ไปใช้งานบนโปรโตคอลDeFi
ตลาดแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ก็เริ่มผสานรวมกลยุทธ์ผลตอบแทนจาก DeFi เช่นกัน ในเดือนกันยายน Coinbase ได้ร่วมมือกับ Morpho โปรโตคอลการให้กู้ยืมสำหรับ DeFi เพื่อให้ผู้ใช้สามารถให้กู้ยืม USDC Stablecoin และรับผลตอบแทนสูงสุด 10.8 เปอร์เซ็นต์
ไม่ถึงหนึ่งเดือนต่อมา Crypto.com ได้ประกาศแผนการที่จะผสานรวม Morpho เข้ากับบล็อกเชน Cronos ของตน ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถฝาก ETH ที่ห่อหุ้มไว้และสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อรับผลตอบแทนจาก Stablecoin ผ่านระบบให้กู้ยืมใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปลายปีนี้
นิตยสาร Hayes เผยความกังวลเกี่ยวกับ Crypto และ ETH staking เฉพาะช่วงคิวทางออก Hodler’s Digest 14 ถึง 20 กันยายน