ตลาด Bitcoin และ Altcoin ในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐที่ส่งผลต่อสภาพคล่องในตลาดโลก ราคา Bitcoin ในช่วงครึ่งแรกของปีมีความผันผวนอยู่ในกรอบ 1.8 ล้าน - 2.4 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอยู่
การเติบโตของ Layer 2 Solutions เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่โดดเด่นในปีนี้ โซลูชันเหล่านี้ช่วยแก้ปัญหาความล่าช้าและค่าธรรมเนียมที่สูงบนเครือข่าย Ethereum ทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น โปรเจกต์อย่าง Arbitrum, Optimism และ Base ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีมูลค่าการล็อกสินทรัพย์รวมกันเกิน 100,000 ล้านบาท
สำหรับตลาดไทย เราเห็นการเติบโตของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. อย่างถูกต้อง การที่รัฐบาลมีกฎระเบียบที่ชัดเจนทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น และสามารถป้องกันความเสี่ยงจากการฉอโกงได้ดีขึ้น ปัจจุบันมีผู้ใช้งานคริปโตในไทยมากกว่า 2 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคนภายในสิ้นปี
แนวโน้มการนำคริปโตมาใช้ในชีวิตจริงก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ร้านค้าและธุรกิจในไทยเริ่มยอมรับการชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น โดยเฉพาะในย่านท่องเที่ยวและธุรกิจออนไลน์ การชำระเงินด้วย Stablecoin เช่น USDT และ USDC กลายเป็นทางเลือกที่นิยมสำหรับการโอนเงินข้ามประเทศเนื่องจากความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าระบบแบงก์ทั่วไป
การเติบโตของ DeFi (Decentralized Finance) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทยเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง โปรโตคอล DeFi ช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินโดยไม่ต้องผ่านสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม การให้กู้ยืม การแลกเปลี่ยน และการฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ยสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ โดยมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระวังความเสี่ยงที่มาพร้อมกับตลาดคริปโต ราคาที่ผันผวนสูงยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง การกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทและการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ การใช้กลยุทธ์ Dollar Cost Averaging หรือการลงทุนเป็นงวดๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
สำหรับแนวโน้มในครึ่งหลังของปี ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านมองว่าตลาดจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังจากที่หลายประเทศรวมถึงสหรัฐอเมริกามีการกำหนดกฎระเบียบที่ชัดเจน สถาบันการเงินขนาดใหญ่เริ่มเปิดบริการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและความน่าเชื่อถือของตลาด
การพัฒนาของเทคโนโลยี AI และการนำมาผสมผสานกับ Blockchain ก็เป็นอีกหนึ่งแนวโน้มที่กำลังได้รับความสนใจ โปรเจกต์ใหม่ๆ ที่นำเทคโนโลยีทั้งสองมาใช้ร่วมกันเพื่อสร้างนวัตกรรมด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การทำนายแนวโน้มตลาด หรือการพัฒนา Smart Contract ที่ซับซ้อนมากขึ้น
ในท้ายที่สุด ตลาดคริปโตในปี 2025 มีโอกาสและความท้าทายมากมาย การติดตามข่าวสาร การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการลงทุนอย่างมีสติจะช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่พร้อมกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม