ขณะนี้ Bitcoin หลุดพ้นจาก ภาวะซื้อมากเกินไป แล้ว และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ตามการวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์
Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดที่มากกว่า 126,000 ดอลลาร์สหรัฐในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็น ช่วงครึ่งทางของวัฏจักรราคาสี่ปี Arab Chain ผู้ร่วมให้ข้อมูลของ CryptoQuant กล่าวเมื่อวันพุธ
แม้จะมีการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ตัวชี้วัดทางเทคนิคชี้ให้เห็นว่าราคายังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงที่คงที่ ซึ่งห่างไกลจากภาวะซื้อมากเกินไปที่มักจะเกิดขึ้นก่อนถึงจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ รายงานเสริม
Bitcoinแสดงสัญญาณ โมเมนตัมขาขึ้น
Arab Chain ระบุว่า Bitcoin ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงของโมเมนตัมขาขึ้นอย่างสมดุล โดยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 30 วัน ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยปิดในช่วง 30 วันที่ผ่านมา อยู่ต่ำกว่า 116,000 ดอลลาร์สหรัฐ เล็กน้อย บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีความผันผวนรุนแรง
ทั้งนี้ Arab Chain เสริมว่า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 30 วันของ Bitcoin หรือ ระดับความผันผวนของผลตอบแทน อยู่ในระดับ ต่ำพอสมควรที่ 4,540 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงการบีบตัวของความผันผวน สภาวะที่มักเกิดขึ้นก่อนการเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในทิศทางขาขึ้น หากได้รับแรงสนับสนุนจากกระแสสภาพคล่องใหม่ที่ไหลเข้ามา
อัตราการเติบโตของ Bitcoin อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 ที่มา CryptoQuant
นักวิเคราะห์ระบุว่า Bitcoin มักจะขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรภายในระยะเวลาสูงสุด 600 วันหลังจากเหตุการณ์ Halving ซึ่งเป็นช่วงที่รางวัลจากการขุดถูกลดลงครึ่งหนึ่ง และหากรูปแบบนี้ยังคงดำเนินต่อไป Bitcoin ในขณะนี้ก็อยู่ภายในช่วงเวลาสำคัญ ที่ในอดีตเคยนำไปสู่การทำจุดสูงสุดของตลาดกระทิงครั้งใหญ่
ปัจจัยต่าง ๆ สอดประสานกันอย่างลงตัวหนุนเงินทุนไหลเข้าสู่ ETF ทำสถิติสูงสุดในไตรมาส 4 รายงานจาก Bitwise
ทั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bitwise ได้คาดการณ์เมื่อวันอังคารว่า กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงไตรมาสที่ 4
โฮแกนระบุว่าการที่ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้น เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4 และคาดว่าจะ ดึงดูดเงินทุนได้มากกว่าในปี 2025 เมื่อเทียบกับปีแรกที่เปิดตัว ซึ่งเคยทำสถิติไว้ที่ 36 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีนี้ กองทุนเหล่านี้ได้ดึงดูดเงินทุนไหลเข้าแล้วกว่า 22.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากแนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไป จะทำให้ยอดรวมสิ้นปี 2025 อยู่ที่ประมาณ 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โฮแกนกล่าวเพิ่มเติมว่า ขอพูดตรง ๆ ผมไม่กังวลเลย พร้อมเสริมว่า จากมุมมองของผม ทุกปัจจัยกำลังส่งสัญญาณสอดคล้องกันเพื่อให้ไตรมาส 4 แข็งแกร่งมากพอที่จะสร้างสถิติใหม่ของกระแสเงินทุนไหลเข้าได้
เขายังระบุอีกว่า เหตุผลที่ พื้นฐานที่สุด ที่ทำให้เขาคาดว่ากระแสเงินทุนจะพุ่งสูงในช่วงปลายปี 2025 คือเขา มองบวกต่อผลตอบแทนของ Bitcoin ในไตรมาส 4
กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่กองทุน ETF ของทองคำ เส้นสีดำ และ Bitcoin เส้นสีส้ม จำแนกตามปีนับตั้งแต่เปิดตัว
ที่มา Bitwise
โฮแกนกล่าวว่า แม้มันอาจฟังดูขัดกับสัญชาตญาณอยู่บ้าง แต่ราคาที่สูงขึ้นมักจะกระตุ้นความต้องการลงทุนในกองทุน Bitcoin ETF ให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากสื่อ บริษัทต่าง ๆ และนักลงทุนรายย่อยหันมาให้ความสนใจกับ Bitcoin มากขึ้น
เขาเสริมว่า ในทุกไตรมาสที่ราคา Bitcoin เติบโตเป็นเลขสองหลัก กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่กองทุน Bitcoin ETF ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นหลักหลายหมื่นล้านดอลลาร์ เช่นกัน
การเทรดเพื่อป้องกันการด้อยค่าของเงิน และการเปิดให้อนุมัติแพลตฟอร์ม หนุนไตรมาส 4 เปิดตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
โฮแกนกล่าวเพิ่มเติมว่าการคาดการณ์ของเขายังอิงจากการที่มีนักลงทุนหลากหลายกลุ่มมากขึ้นที่สามารถลงทุนใน ETF ได้ ขณะที่ ที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่งเริ่มเปิดรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ และเทรดเดอร์จำนวนมากกำลังมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีในภาวะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว
เรื่องที่เกี่ยวข้อง Bitcoin ดีดตัวกลับขึ้นใกล้ระดับสูงสุดของกรอบราคา หลังข้อมูลชี้ให้เห็นถึง สภาพคล่องจริงในตลาด
โฮแกนกล่าวว่า วอลล์สตรีทกำลังมองหา การเทรดเพื่อป้องกันการด้อยค่าของเงิน เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีผลการดำเนินงานดีในภาวะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ซึ่งทั้งทองคำและ Bitcoin ต่างก็ทำผลงานได้ดีในปีนี้
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ เพราะเมื่อที่ปรึกษาทางการเงินนั่งคุยกับลูกค้าในช่วงสรุปผลงานปลายปี พวกเขาต้องการให้รายงานผลการลงทุนแสดงให้เห็นว่าพอร์ตของลูกค้ามีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด และมีเพียงวิธีเดียวที่จะทำได้ คือการซื้อทองคำและ Bitcoin
โฮแกนกล่าวเพิ่มเติมว่า กระแสการเทรดลักษณะนี้จะได้รับแรงหนุนจากบรรดาผู้จัดการความมั่งคั่งรายใหญ่ที่ เริ่มปรับตัว และเปิดให้ลูกค้าสามารถลงทุนใน Bitcoin ETF ผ่านแพลตฟอร์มของตนได้
เขาอ้างถึงรายงานของ Morgan Stanley ที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งให้แนวทางแก่ที่ปรึกษากว่า 16,000 ราย ว่าสามารถจัดสรรการลงทุนในCryptocurrency ได้อย่างยืดหยุ่น เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุนแบบหลายสินทรัพย์ multi asset portfolio พร้อมแนะนำให้จัดสรรได้สูงสุด 4% สำหรับ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง
โฮแกนยังกล่าวด้วยว่า ไตรมาส 4 เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยกองทุน ETF ได้รับเงินทุนสุทธิไหลเข้ามาแล้ว 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเพียง 4 วันทำการแรกของไตรมาส
เรายังมีเวลาอีก 64 วันเพื่อดึงเงินเพิ่มอีก 10 พันล้านดอลลาร์ เขากล่าว ผมคิดว่าเราจะทำได้ และอาจได้มากกว่านั้นด้วยซ้ำ
Trade Secrets Bitcoin อาจเห็น แรงขับครั้งใหญ่ครั้งสุดท้าย สู่ระดับ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แรงกดดันต่ออีเธอเรียมเริ่มก่อตัว